รองนายกฯ ชี้ หญิงไทยควรมีลูกอย่างน้อย 2 คน และพยายามลดการเกิดที่ไม่มีคุณภาพ แม้คนวัยทำงานกว่าร้อยละ 69 ยืนยันว่าไม่อยากมีลูก
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข, พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย รวมถึงผู้แทนกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการมีการหารือเรื่องการเกิดของประชากร ซึ่งปัจจุบันอัตราการเจริญพันธุ์รวมของไทยอยู่ที่ 1.08 ต่อแสนประชากร และต้องการเพิ่มให้ได้ประมาณ 2.1 ต่อแสนประชากร หรือแม่ 1 คนควรมีลูก 2.1 คน และพยายามลดการเกิดที่ไม่มีคุณภาพ ที่เกิดจากแม่วัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี
โดยอัตราคลอดวัยรุ่นอายุ 10-14 ปี มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ลดลงจาก 0.9 ต่อพันประชากร ในปี 2564 เหลือ 0.8 ต่อพันประชากร ในปี 2565 ส่วนอัตราคลอดในวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ลดลงจาก 24.4 ต่อพันประชากร ในปี 2564 เหลือ 21 ต่อพันประชากร ในปี 2565 ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของคณะกรรมการชุดนี้
ส่วนที่ถามว่าจะทำอย่างไรให้เด็กเกิดมามีคุณภาพไม่มีปัญหาด้านอื่น ๆ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีการกำหนดบริการเพื่อดูแลและป้องกันเด็กและเยาวชนหรือบุคคลที่ไม่ต้องการจะมีบุตรก่อนวัยอันควรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉิน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการทำแท้งที่ไม่ผิดกฎหมาย คือ ตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ รวมถึงมีหน่วยงานให้ความรู้
ส่วนผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป บางรายมีบุตรยาก มีการให้บริการคลินิกส่งเสริมการมีบุตร หารือเรื่องการกำหนดค่าใช้จ่ายสิทธิประโยชน์การฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก หรือเรื่องของการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนประชากร
ซึ่งที่ประชุมก็หารือกันว่า การเพิ่มอัตราเจริญพันธุ์อาจจะยังไม่ต้องถึง 2.1 ต่อแสนประชากร แต่อย่างน้อยให้ถึง 1.5 ต่อแสนประชากรก่อน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการดูเรื่องของกฎหมายที่มีอยู่ว่า สมควรที่จะปรับปรุงแก้ไขในประเด็นอะไร ภายในระยะเวลา 3 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผลสำรวจพบว่า วัยแรงงานร้อยละ 69 ไม่อยากมีลูก เพราะไม่มีความพร้อม มีข้อเรียกร้องอยากให้แก้กฎหมายสิทธิลาคลอดเป็น 180 วัน และเพิ่มเงินอุดหนุนลาคลอด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดประเด็นนี้ แต่เป็นเรื่องต่อเนื่องกับการส่งเสริมการเกิดดีมีคุณภาพและแก้ไขปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี บนสมมติฐานว่า วัยรุ่นตั้งครรภ์บ่งถึงความไม่พร้อมไม่เหมาะสม
เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 คือ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ท้องเลยดีที่สุด ซึ่งการเกิดในกลุ่มอายุ 19 ปีลงมา มีประมาณ 21 คนต่อคนพันประชากร ขณะที่อัตราเจริญพันธุ์ของอายุ 20-35 ปี มีลูกแค่ 1.08 คน ทั้งสองภาพอย่างมองว่าย้อนแย้ง คนละวัตถุประสงค์ เราต้องการแก้ไขปัญหาท้องไม่พร้อม เราเลยยอมรับได้ในแผนปฏิบัติที่กรรมการเห็นชอบ ตั้งเป้าหมายในปี 2570 การท้องในวัยรุ่นต้องไม่เกิน 15 คนต่อพันประชากร
source : มติชนออนไลน์