September 19, 2024

ชลน่าน ลุยเชียงใหม่ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 แนะผู้ป่วยทำห้องปลอดฝุ่นที่บ้าน

 

 

 

 

 

 

ชลน่าน ลุยเชียงใหม่ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 แนะผู้ป่วยทำห้องปลอดฝุ่นที่บ้าน จ่อเพิ่มสิทธิคัดกรองมะเร็งเบื้องต้นด้วยเครื่องสแกน

วันที่ 9 เม.ย. 2567 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมความพร้อมทางการแพทย์การดูแลสุขภาพประชาชนจากฝุ่นเชียงใหม่ รวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงที่กำลังเผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 สูง ว่า เป็นข้อห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ตน ในฐานะรมว.สาธารณสุข มาติดตามสถานการณ์และช่วยกันแก้ปัญหาในมิติด้านสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ที่มีค่าเพิ่มสูงมาก

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ระบบการแพทย์และสาธารณสุขมีการติดตามเรื่องนี้ตลอด และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มโรค คือ โรค COPD หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคผิวหนัง โรคเยื่อบุตา โรคหอบหืด และโรคมะเร็งปอด อย่างโรค COPD ขณะนี้พบประมาณ 3,000 กว่าราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยรายเดิม โดยกลุ่มนี้จะมีอาการขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ความสำคัญและมีการเฝ้าระวัง เมื่อพบจะรักษาแรกเริ่ม อย่างสถิติการให้ยาเพิ่มเป็น 3 เท่าเพื่อควบคุมอาการ

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า โรคนี้ไม่ค่อยพบเพิ่มมาก ซึ่งมีการแนะนำจัดทำห้องปลอดฝุ่นที่บ้าน ขณะนี้ประมาณ 2 พันราย โดยยังเหลือ 1.9 พันรายจากกว่า 3 พันรายที่ไม่มีห้องปลอดฝุ่น ในส่วนของ รพ.มีการจัดทำห้องปลอดฝุ่นแล้ว และภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

“สำหรับโรคที่จะบ่งบอกว่ามาจากฝุ่น PM2.5 จะเป็นในกลุ่มโรคผิวหนัง และเยื่อบุตาอักเสบ สะท้อนได้เพราะเป็นระยะเฉียบพลัน แต่หากโรคเรื้อรัง เมื่อมีอาการก็จะวัดได้ในแง่ของการกระตุ้น” นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม นพ.ชลน่านกล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 1 เป็นเขตต้นแบบเรื่องของการเฝ้าระวังทั้งเขตสุขภาพ (One Region One Sovereign Systems) เป็นระบบการเฝ้าระวังโรคผ่านเขตสุขภาพที่ 1 ทั้ง 8 จังหวัด ทำเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน เชื่อมกับทางกระทรวงมหาดไทย และมหาวิทยาลัย โดยเรามีศูนย์ดำเนินการอยู่ ถือเป็นการนำร่องที่แรกที่ใช้ฐานข้อมูลทั้งเขตมาใช้บริหารจัดการ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีศูนย์เฝ้าระวัง ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเขตสุขภาพ กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย เฝ้าระวังสถานการณ์จริงแบบเรียลไทม์ โดยชุดข้อมูลนี้จะเข้าไปยังศูนย์เฝ้าระวังสำนักงานเขต จะบ่งชี้ได้ว่า ณ เวลานี้มีผู้ป่วยที่ไหนอย่างไร เป็นข้อมูลแดชบอร์ด เป็นข้อมูลที่รวดเร็วและเข้าไปดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทันท่วงที

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ศูนย์นี้จะเกิดประโยชน์ในแง่การบริหารจัดการ และเชื่อมไปยังกระทรวงมหาดไทยด้วยเช่นกัน อีกทั้ง สธ.ยังเน้นการค้นหาเชิงรุก สำหรับผู้ป่วยที่มีความเปราะบาง และจัดบริการเชิงรุก มีคลินิกมลพิษออนไลน์ มีระบบเข้าไปดูแลในชุมชน มีทีม 3 หมอเข้าไปทำงานในพื้นที่ ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะเข้าไปที่ระดับ รพ.สต. เป็นต้น รวมถึงมีมาตรการป้องกัน ด้วยการแนะนำให้ความรู้ประชาชน มีหน้ากากอนามัย N95 เป็นต้น

“ฝุ่นพิษ เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย อย่างผิวหนัง ดวงตา หรือผู้ป่วยโรคเดิมก็อาจกระตุ้นได้ ส่วนผู้ป่วยใหม่นั้น ด้วยลักษณะโรค อย่างโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังต้องใช้ระยะเวลา รวมถึงมะเร็ง ที่หลายคนคิดว่าเกี่ยวกับมะเร็งปอด ทางสธ.มีการเฝ้าระวัง โดยเขตสุขภาพที่ 1 มีการคัดกรองเบื้องต้นด้วยคอมพิวเตอร์สแกน ซึ่งใช้ปริมาณรังสีไม่เหมือนทั่วไป โยสามารถตรวจหามะเร็งที่เข้าข่ายได้”

นพ.ชลน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการคัดกรองมะเร็งเบื้องต้นด้วยเครื่องสแกนนั้น จำเป็นต้องเข้าสู่สิทธิประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่เข้าในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ขณะนี้ทางเขตสุขภาพที่ 1 กำลังเสนอความจำเป็นว่า ควรต้องเพิ่มเข้าไปในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรื่องนี้จะมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาเช่นกัน

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *