เปิดใจเทศกิจบึงยี่โถ ช่วยลุงป่วยไต เมียเอามาทิ้ง นั่งร้องไห้ริมถนน ดูวงจรปิดยิ่งสงสาร
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 23 ม.ค.67 นายชินวัทน์ วรรักษ์พรภัทร์ พนักงานเทศกิจ เทศบาลเมืองบึงยี่โถ จ.ปทุมธานี เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากช่วยเหลือลุงป่วยเป็นโรคไต ถูกเมียเอามาทิ้งไว้กลางถนน อ่านข่าว สงสารแทน! ลุงนั่งสะอื้น ป่วยโรคไต ขาบวมเดินไม่ได้ เมียเอามาทิ้งริมถนน
นายชินวัทน์ กล่าวว่า ตอนช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนพักเที่ยงทานข้าวพอดี และขับรถไปเห็นลุงท่านหนึ่งนอนอยู่ริมถนนเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงเข้าไปสอบถามลุงว่า ลุงทำไมมานอนตรงนี้ ลุงก็บอกว่า ลุงเป็นโรคไต ถูกเมียเอามาทิ้งตรงนี้ แล้วก็ปวดขาเดินไม่ไหว ซึ่งท่าทีของลุงตอนนั้น นอนร้องไห้อยู่บนพื้นปูนซิเมนต์ และดูเหมือนเจ็บขามากเนื่องจากขาบวม
“ลุงเล่าให้ฟังว่า ภรรยาเอาทิ้งที่นี่ แล้วก็เดินออกไปร้านกาแฟใกล้ๆ ช่วยไปตามให้หน่อย ผมเลยหันไป ก็ปรากฏว่าไม่เจอใครแล้ว และจากการตรวจกล้องวงจรปิด เห็นรถแท็กซี่รับตัวลุงมา คุณป้าก็เดินอ้อมไปรับลุงอีกฝั่งนึง จากนั้นลุงก็เดินกะเผลกลงจากแท็กซี่แล้วมานั่งอยู่หน้าเซเว่น นั่งอยู่พักหนึ่ง ป้าก็เดินออกไปและเดินกลับมาประมาณ 3 รอบ โดยรอบที่ 3 ป้าก็เดินออกไปเลย จากนั้น 2-3 นาทีต่อมา ลุงก็เดินกะเผลกมาล้มตรงจุดที่ผมไปเจอ” นายชินวัทน์ กล่าว
ซึ่งเรื่องราวนี้ตนรู้สึกสะเทือนใจมากและอยากช่วยเหลือเท่าที่สามารถช่วยได้ จึงตัดสินใจนำเรื่องนี้ลงโซเชียลเพราะอยากให้หลายท่านช่วยเหลือลุงเรื่องการรักษาโรคไต ตนไม่ได้มีจุดประสงค์ลงคลิปเพื่อไปทำให้ครอบครัวร้าวฉาน แต่มีจุดประสงค์ให้คนช่วยเหลือลุงเยอะๆ จึงอยากให้มองข้ามเรื่องของครอบครัว เพราะตนก็ไม่รู้รายละเอียดลึกๆ
เบื้องต้น ตามนโยบายของนายกเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ท่านก็ให้ช่วยสอดส่องดูแลและคอยความช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ตนจึงถามหาบัตรประชาชนเพราะกลัวว่าเป็นคนเร่ร่อน จากนั้นลุงก็เอาบัตรประชาชนและใบขับขี่ให้ดู ตนก็พยุงลุงไปหลบแดดอยู่ที่เซเว่น หลังจากนั้นพี่ที่ช่วยเหลืออีกคนนึงก็ให้เงิน 100 บาท พร้อมกับข้าว 1 กล่อง ส่วนตนได้แจ้งกองสวัสดิการและพัฒนาสังคมของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ให้รีบมาเช็คประวัติลุง และสอบถามว่าลุงต้องการอะไร
โดยลุงบอกว่าไม่ต้องการจะไปอยู่กับ พม. หรือไปรักษาอะไร แต่ลุงยืนยันอยากจะไปอยู่กับญาติที่คลอง 2 หน้าวัดแสงสรรค์ รังสิต ธัญบุรี เจ้าหน้าที่เทศกิจ จึงพาไปส่งที่ศาลาหน้าวัด จากนั้นตนก็ไม่ทราบว่าญาติมารับหรือไม่ โดยลุงไม่มีเงินและโทรศัพท์ติดตัวเลย ลุงบอกว่าแฟนเอาไปหมดเลย ตนไม่ทราบว่าตอนนี้ลุงเป็นยังไงบ้าง แต่หลังจากเลิกงานตนตั้งใจจะขับรถไปดูที่หน้าวัดว่าตอนนี้ลุงได้ไปอยู่กับญาติแล้วหรือยัง