เบสท์ รักษ์วนีย์ ร้องว้าว! จัดงานวันเกิดให้ พ่อสมรักษ์ แขกเกินงบ ไม่รู้เรื่องคดีมีหน้าที่แค่จ่ายเงิน ตนยินดีจ่ายเพราะเป็นหัวหน้าครอบครัว ลั่นไม่ไปฝรั่งเศสแล้ว
เป็นสาวยอดกตัญญูซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวในวัยเพียง 23 ปี สำหรับยูทูปเบอร์สาว เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ลูกสาวของคุณพ่อ สมรักษ์ คำสิงห์ แถมสถานะล่าสุดยังโสดอีกต่างหาก
ล่าสุดมีโอกาสเจอกับ เบสท์ รักษ์วนีย์ ในงานเปิดCLASSY Aesthetic & Wellness โฉมใหม่ โลเกชั่นใหม่ราชพฤกษ์ เลยขอถามถึงการจัดงานวันเกิดให้คุณพ่อในวันครบรอบ 51 ปี พร้อมอัปเดตคดีความของพ่อสมรักษ์
วันเกิดเมื่อต้นปี แฮปปี้เบิร์ดเดย์กันไป? “เรื่องราวคือเรารู้แล้วว่าวันนั้นวันเกิดพ่อ คุณพ่อมาจากขอนแก่นพอดีเราเลยถามคุณพ่ออยากได้อะไร เขาบอกอยากจัดงานเอาเป็นว่าของขวัญไม่มีแล้วกัน เบสจ่ายวันนั้นให้คือจัดงานให้พ่อ”
คุณพ่อเป็นไง ยิ้มแฮปปี้? “เขาก็แฮปปี้เพราะเพื่อนเขามาเยอะมาก เยอะมากจริงๆ”
แขกเกินกว่าที่เราตั้งงบไว้? “ใช่ๆ(หัวเราะ) เราบอกพ่อว่าเลี้ยงอาหาร ไม่มีแอลกอฮอล์นะ ดื่มกรุบๆได้ เบาเนอะพ่อเนอะ กินเลี้ยงกันเอง พอไปถึงหนูไปช้าเพราะว่าหนูทำงาน ประมาณ 3-4 ทุ่ม เขาปาร์ตี้กันแล้ว อู้ว! คือ 4 โต๊ะ ใหญ่ๆ หนูก็แบบโอ้มายก็อด คำนวณจากสายตาแล้วน่าจะประมาณเท่านี้”
สมมติจาก100เกินไปเท่าไหร่? “ประมาณ3-4 เท่า แต่ก็โอเคพ่อแฮปปี้เนอะ” (มีช็อคนิดนึง?) “เราไม่ได้ช็อคหรอกแต่ว่า อู้ว! ว้าว!”
เขาแฮปปี้? “เขาก็แฮปปี้หนูเข้าใจนะ คนถามทำไมถึงจัดงานให้พ่อ หนูอยากบอกว่าวันเกิดมันมีปีละครั้ง แล้วแต่ละปีอ่ะเราไม่รู้จะเจออะไร ไม่รู้จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันไหม หนูรู้สึกว่าเป็นวันสำคัญ วันเกิดมันเป็นวันสำคัญนะคะ วันเกิดน้อง วันกิดพ่อ วันเกิดแม่ ถ้าเราให้ของขวัญได้เราก็ให้ ถ้าเราเลี้ยงให้เขามีความสุขได้เราทำเถอะ เราไม่มีทางรู้ว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ปีนี้เราอยู่ด้วยกันปีหน้าจะได้อยู่ด้วยกันไหมเราก็ไม่รู้”
อวยพรคุณพ่อว่ายังไงบ้าง? “บอกตลอดว่า ยูแฮปสตินะ ไอแฮปสติอยู่ ยูก็ต้องมีสตินะ” (แล้วพ่อตอบว่าไง?) “โอเค (หัวเราะ)” (ตอนนั้นคุณพ่อมีสติไหม?)“กรึ่มๆ เขามีสติค่ะ ไม่ได้เมาขนาดนั้น ในงานไม่ได้เมาเละ เฮฮาสนุกสนาน”
ในครอบครัวยังกังวลเรื่องข่าวอยู่ไหม? “ตอนนี้ไม่นะคะ เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เบสท์ให้ทนายจัดการ เบสท์ไม่รู้รายละเอียดเบสมีหน้าที่จ่ายตังค์ เราแค่คอยจ่ายให้ในแต่ละเดือนที่ต้องใช้จ่ายเท่านั้น ในเรื่องของยืดเยื้อหรือพิสูจน์ยังไง อันนี้ไม่รู้เลย”
จากนี้ไปเขาระวังมากขึ้นไหม? “ทุกคนรอดูพร้อมกันดีกว่า เพราะตอนนี้เขามีโปรเจกต์ใหม่อยู่ไปทำธุรกิจกับเพื่อน รอดู หนูไม่เคยห้ามหนูรู้สึกว่ามนุษย์เราไม่มีใครโตที่สุดหรอก คนเราต้องอยากลองอะไรใหม่ๆล้มเหลวอีกลองทำใหม่ มันเป็นปกติของมนุษย์เราเลยบอกพ่อถ้าพ่ออยากทำ แล้วพ่อคิดว่าดีก็ทำไปก่อน”
ประเมินความเสี่ยงไหม? “หนูไม่ได้ประเมินหนูแค่บอกว่า ถ้าสำเร็จก็ดีใจแต่ถ้าล้มเหลวค่อยว่ากัน ให้เขาได้ลองไป”
ล่าสุดคดีคืบหน้าแค่ไหน? “หนูไม่รู้นะ เหมือนกับว่าทนายบินไปตรงนู้นแล้ว ตรงขอนแก่น บินไปมา”
ตอนจ่ายตังค์มึนไหมมันหลายจุด? “ไม่ หนูว่ามันเป็นเรื่องปกติแหละ เราเป็นหัวหน้าครอบครัว จะเกิดอะไรขึ้นจะกี่บาทเราก็ต้องรับผิดชอบ”
ท้อไหมว่าเราหาตังค์มาแทบไม่ได้ใช้เลย? “ก็ใช้ ไม่ท้อค่ะ หนูรู้สึกว่าก็ดีค่ะ เราได้เรียนรู้จะได้เก่งขึ้นถ้าเรามองในมุมที่ดี”
เวลาจ่ายเยอะๆเครียดไหม? “ไม่ๆ ก็เครียดแหละ ไม่อยากตอบให้มีดราม่า เอาเป็นว่าหนูไม่เป็นไรสบายดี”
เคยคุยกับพ่อจริงจังไหม? “หนูก็ไม่ได้คุยอะไรขนาดนั้นนะ หนูว่าการให้เกียรติเป็นสิ่งสำคัญ เขาเป็นบิดามารดาเนอะไม่ว่าเขาจะตัดสินใจยังไง เราเป็นสายซัพพอร์ตดีกว่า มีความคิดเห็นไหมอาจจะมีแต่เราไม่ได้ถึงขั้นไปว่าเขา หรือไปสั่งเขา หนูว่าเหมือนเราไม่ให้เกียรติ เราอายุน้อยกว่าเราเด็กกว่า”
เรื่องคุณพ่อไปฝรั่งเศส? “เขาไม่น่าไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คงไม่ได้ไป”